วิถึคนลงุทุนหุ้น ตอนที่ 1 " ต้องรู้มากมีชัยไปกว่าครึ่ง " ไม่เช่นนั้นแล้ว จะเป็นการ " ทิ้ง " ทุน!


ตลาดทุน
ตลาดหลักทรัพย์
ตลาดหุ้น
แล้วแต่จะเรียกกัน

เมื่อสนใจก็คงได้ศึกษากันจากสื่อในเน็ตที่มีอยู่มากมาย  จนเปิดบัญชีซื้อขายกันเรียบร้อยแล้ว จะีการ ช่องทางใดก็ตามแต่ละคน

ส่วนผลจะออกมาอย่างไร โลกในความเป็นจริงของแต่คนที่เข้ามาในตลาดหุ้น   ก็ย่อมเหมือนหรือต่างกันไป


             หากวันนี้คุณเริ่มซื้อขายวันแรก  หุ้นตัวแรกที่คุณซื้อ คุณตัดสินใจจากอะไร  แล้วคาดหวังกำไรไปเท่าไหร่?


หากวันนี้เป็นปีที่ 2  ที่อยู่ในตลาด
หากวันนี้เป็นปีที่ 3  4  5  ..... 10
หากวันนี้คุณปิดบัญชีออกจากตลาดไปแล้ว ด้วยเหตุใดๆก็ตาม


ความคาดหวังผลกำไร  ณ ทุกจุดเวลา  คุณได้รับผลกำไรตามคาด หรือ ผิดหวังขาดทุน ติดตัวแดง


            ....เราใช้เส้นทางไหน ที่จะประกัน % ความสำเร็จ ในตลาดหุ้น  คิดว่ามีคำตอบอยู่ในทุกตำรา แค่ 2-3 บรรทัด ในหลายๆพันหน้า หลายร้อยหน้า ทุกตำรา

แล้วคำตอบคืออะไร โปรดติดตาม ตอนต่อไป หรือหลายคนรู้แล้ว

-24 มิย 60-




..ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ต..
...................................................................................................................................................................


21 กันยายน 2560



เมื่อ ดัชนี SET  เบรค 1,600 จุด  เมื่อ 29-8-2560

ตลาดหุ้นอันเป็นแหล่ง รวมทุน ของธุรกิจหลักทั้ง เล็ก กลาง ใหญ่ และต่างชาติ

เมื่อกฎกติกาในการซื้อขายแล้ว  มีมากกว่าการลงทุน  มีความซับซ้อน ที่มองเห็นได้ยาก กว่าที่เห็น

สำหรับ

คนนอกตลาดรู้สึกอย่างไร
คนในตลาดรู้สึกอย่างไร


หากจมองกันอย่างง่าย
ฐานะเศรษฐกิจเฉพาะตัวเรา  เปรียบเทียบกับ  บริษัทหลักทรัพย์ 1 บลจ.

ความสามารถในด้านต่างๆ

ไม่ว่า จะเป็นทุน
ไม่ว่า จะเป็นการมีรายได้
ไม่ว่า จะเป็นหนี้สิน
ไม่ว่า จะเป็นความเติบโต ทั้งด้าน ทรัพย์สิน รายได้ กำไร ยอดขาย 


เราก็จะมอง กรอบง่ายๆ ต่อ 1 บลจ. ได้ออกว่า ภาพรวมๆ ที่เราควรมีข้อมูลมาตัดสินใจมีอะไรบ้าง

แต่สิ่งที่ต้องมอง คือ กรอบ จริยธรรม ในข้อมูล นั้นๆ เป็นจริง เป็นปัจจุบัน มากน้อยเพียงใด

ซึ่งแน่นอนกว่า ไม่ใช่ เรื่อง ง่าย  ในการ ประเมิน  บลจ.หรือ หุ้น ใดๆ ในตลาดได้ถูกต้องชัดเจน


(1) และที่สำคัญ  ภาพนั่น สิ่งที่เป็นจริงนั้น   มีความไม่แน่นอน แอบซ่อนอยู่ อย่างมีนัยสำคัญ ต่อ ราคาซื้อขายในแต่ละช่วงเวลาๆ 

อันเกิดจาก  
ความไม่รู้ในข้อมูล
ความรู้ในข้อมูลที่ไม่ตรงความจริง
การตกอยู่ในภาวะถูกชี้นำทางสื่อ

แรงกดดันทางจิตวิทยา จากการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น

ทำให้เกิดความไม่แน่นอนสูง  อยู่ตลอดเวลา ในตลาดหลักทรัพย์  ในกรอบเวลา ตำกว่า 1 ปี
และนี่คือ   สิ่งชวนหลงใหลในการซื้อขาย  ของผุ้สนใจจำนวนมาก  ที่ไม่มีเวลา และไม่มีประสบการณ์ ต้อง ถูกดูดเข้ามาเสีย ค่าประสบการณ์  ในทุกๆ ปี เป็น จำนวนไม่น้อย

คือกลายเป็น แมงเม่า  เข้ากองไฟ เสียเงินเสียทองกันไป เป็นบทเรียนแรก  ในกรณีที่เปิดบัญชีซื้อขายด้วยตนเอง

ในรัฐบาลพิเศษ จาก วิกฤตการเมืองเกิดความขัดแย้งในบ้านเมืองที่ผ่านมา   พร้อมทั้ง  ความวุ่นวายของโลกจากความขัดแย้งในตะวันออกกลาง  และความสมุทรเกาหลี  จากมหาอำนาจใหญ่โลก

เหล่านี้เป็น วิกฤตสำหรับการทำมาค้าขายปกติของโลกไปโดยปริยาย  แต่ในวิกฤตนั้น


แต่ในปลายปีนี้ ดัชนี SET ก็ถูกดันทะลุ 1,600 จุด  ไปแบบค้านคำวิเคราะห็ของนักวิเคาระห์ทั้งหตลาดก็ว่าได้  โดย AOT  PTT  KBANK และเหล่าหุ้นใหญ่อีกหลายตัวมีส่วน   มีแรงซื้อจนดึงดัชนีเบรค 1,600 จุด ขึ้นไปได้

แต่หากย้อนไปดูวรรค  (1)  ตลาดก็มีความเป็นไปได้ที่ไม่สะท้อนพื้นฐาน  ที่แท้จริง

และนี่คือความเสี่ยงสูงมาก ที่มีอยู่ในตลาดหลักทรัพย์  ตลอดเวลา ที่อันตรายต่อเงินทองของเราที่นำเข้าไปใน วงจรนั้น  อันเป็นที่มาของคำว่า " การลงทุนมีความเสี่ยง "

ที่คนส่วนมากไม่ตระหนักถึงความเสี่ยงนี่กันเท่าที่ควรจะเป็น 

หากเราได้ตระหนักในความเสี่ยงนั้นอย่างมากเมื่อไหร่
นั้นคือเราได้นับหนึ่งแล้วสำหรับ การเดินสู่ความสำเร็จ ในตลาดหลักทรัพย์

...................................................................................................................................................................